pawin054

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551



ชื่ออีฉุด
ภาคภาคใต้
จังหวัดกระบี่
วิธีการเล่นผู้เล่นตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้เล่นก่อนหลัง โดยผู้เล่นมีลูกเกยคนละลูก หลังจากนั้นก็ขีดตารางเป็นช่องสี่เหลี่ยมจำนวน ๖ ช่อง หรือเรียกว่า ๖ เมือง โดยแบ่งเป็นซีกซ้าย ๓ เมือง ซีกขวา ๓ เมืองการเริ่มเล่น ผู้เล่นคนที่ ๑ เริ่มเล่นโดยการทอยลูกเกยลงไปในเขตเมืองที่ ๑ แล้วกระโดดยืนเท้าเดียวในเมืองที่ ๑ หลังจากนั้นใช้ปลายเท้าฉุดลูกเกยให้ผ่านไปในเขตเมืองที่ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ตามลำดับแล้วก็ฉุดลูกเกยออกจากเขตเมืองที่ ๖ ต่อไปผู้เล่นคนเดิม ต้องทอยลูกเกยลงในเมืองที่ ๒ แล้วกระโดดยืนเท้าเดียวในเมืองที่ ๑ กระโดดต่อไปในเมืองที่ ๒ หลังจากนั้นก็เล่นเหมือนเดิมไปเรื่อยๆทุกเมือง จนถึงเมืองที่ ๖ เมื่อทอยลูกเกยและฉุดได้ครบทั้ง ๖ เมืองแล้วให้ผู้เล่นกระโดดด้วยเท้าข้างเดียวจังหวะเดียวลงบนเมืองที่ ๑ ถึง เมืองที่ ๖ ตามลำดับ ห้ามกระโดดหลายครั้งมิฉะนั้นถือว่า ตาย ต้องให้คนอื่นๆเล่นต่อ ถ้าเล่นครบท่านี้แล้วไม่ตาย ให้เล่นในท่าต่อไป คือ เอาลูกเกยวางบนหลังเท้าแล้วสาวเท้าลงในเมืองทั้ง ๖ เมือง ตามลำดับ แต่เท้าหนึ่งลงในเมืองหนึ่งได้เพียงครั้งเดียว เช่น เท้าซ้ายเหยียบลงในเมืองที่ ๑ เท้าขวาเหยียบลงในเมืองที่ ๒ เท้าซ้ายเหยียบลงในเมืองที่ ๓ สลับกันไปเช่นนี้จนกว่าจะครบทุกเมือง ลูกเกยนั้นต้องไม่ตกจากหลังเท้าและเท้านั้นต้องไม่เหยียบเส้น ท่าต่อไปนั้นให้ผู้เล่นปิดตา เดินที่ละก้าวโดยไม่ต้องวางลูกเกยบนหลังเท้าขณะเดินขณะที่ก้าวเท้าลงในแต่ละเมืองผู้เล่นนั้นต้องถามว่า "อู่ บอ" หมายความว่า เหยียบเส้นหรือไม่ ถ้าไม่เหยียบผู้เล่นคนอื่นๆจะตอบว่า "บอ" ถ้าเหยียบเส้นตอบว่า "อู่" เมื่อผู้เล่นที่ปิดตาเหยียบเส้นถือว่า ตาย ต้องเปลี่ยนให้คนอื่นๆเล่นต่อไป ถ้าเล่นยังไม่ตายผู้เล่นนั้นมีสิทธิ์ในการจองเมือง โดยผู้เล่นนั้นต้องเดินเฉียงไปแบบสลับฟันปลาไปตามช่องต่างๆ ให้ลงเท้าได้เพียงเท้าเดียว เช่น ลงเท้าซ้ายในเมืองที่ ๑ ลงเท้าขวาในเมือ งที่ ๓ และลงเท้าซ้ายในเมืองที่ ๕ แล้วกระโดดสองเท้าลงในหัวกระโหลก กระโดดเท้าพร้อมกับหันหลัง และผู้เล่นก็โยนลูกเกยข้ามศีรษะของตนเองถ้าลูกเกยไปตกอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่ง เมืองนั้นจะเป็นของผู้เล่นทันที ดังนั้นผู้เล่นมีสิทธิ์ยืนสองเท้าในเมืองนั้นได้ เมื่อได้เมืองแล้วก็ให้เล่นอย่างนั้นต่อไป จนกว่าจะตายจึงจะต้องเปลี่ยนให้ผู้อื่นเล่นต่อโอกาสหรือเวลาที่เล่นในการเล่นอีฉุดนั้นไม่มีการกำหนดโอกาสและเวลาที่เล่น เพราะสามารถเล่นได้ในทุกโอกาสและการเล่นอีฉุดนั้นเป็นการเล่นของเด็กที่นิยมกันมากในท้องถิ่นจังหวัดกระบี่คุณค่าและแนวคิดในการเล่นอีฉุดนั้นก่อให้เกิดความสามัคคี ความรักความผูกพันธ์กันในหมู่คณะและเป็นการฝึกความสัมพันธ์ของร่างกายในส่วนต่างๆ ทั้ง มือ เท้า และสมอง ได้เป็นอย่างดี

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551

เสือตกถัง

จำนวนผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่นวิธีการเล่น นำกระดาษมาเขียนเส้นทะแยงมุม 2 เส้นเขียนวงกลมเล็กๆ ให้สมมุติเป็นถังในช่องใดช่องหนึ่งของเส้นทะแยงมุม 2 เส้นนำเบี้ยมาวางสมมุติให้เป็นเสือผลัดกันเดินไปมา ฝ่ายใดตกถังก็จะแพ้ไป


ตีลูกล้อ


จำนวนผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่นวิธีการเล่น ตัดไม้ไผ่รวกยาวประมาณ 1 ฟุต เป็นกระบอก เหลาไม้ไผ่เป็นก้านยาว ประกอบเข้าด้านทำเป็นแก่น นำกระดาษชุบน้ำปั้นเป็นก้อนกลม มาอัดที่ปากกระบอกใช้แก่นกระทุ้ง ลูกกระดาษจะกระเด็นออกไปเสียงดัง "โพละ"

ไม้โผละ


จำนวนผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่นวิธีการเล่น ตัดไม้ไผ่รวกยาวประมาณ 1 ฟุต เป็นกระบอก เหลาไม้ไผ่เป็นก้านยาว ประกอบเข้าด้านทำเป็นแก่น นำกระดาษชุบน้ำปั้นเป็นก้อนกลม มาอัดที่ปากกระบอกใช้แก่นกระทุ้ง ลูกกระดาษจะกระเด็นออกไปเสียงดัง "โพละ"

ม้าเขย่ง

จำนวนผู้เล่น ไม่จำกัดจำกัดจำนวนผู้เล่นวิธีการเล่น ตัดไม้ไผ่ยาวประมาณ 1.5 - 2 เมตร เว้นแขนงกิ่งที่แข็งแรงไว้สำหรับเหยียบจากนั้นผู้เล่นยืนบนแขนงกิ่งนั้นๆทรงตัวเดินไปมาหรือวิ่งแข่งขันกันหากผู้เล่นคนใดตกลงมาก็จะเป็นฝ่ายแพ้

ปิดตาควานหา

จำนวนผู้เล่น 4 - 6 คนวิธีการเล่น เริ่มด้วยการจับไม้สั้นไม้ยาวหากใครจับได้ไม้สั้นจะต้องเป็นคนปิดตาควานหาและผู้ที่จะต้องควานหาจะถูกนำผ้ามาปิดตาให้มองไม่เห็น แล้วจับตัวผู้คลานหาหมุนรอบตัวเอง3รอบจากนั้นเด็กๆที่เหลือต่างแยกย้ายหลบหลีกไปภายในของเขตวงกลมที่กำหนดไว้หากเด็กคนใดถูกจับตัวได้ก็จะต้องเป็นคนปิดตาควานหาแทน

เดินกะลา


จำนวนผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวนวิธีการเล่น
เอาเชือกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 1 วา ร้อยกะลามะพร้าว 2 อัน แล้วผู้เล่นขึ้นไปยืนบนกะลามะพร้าว โดยใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้ทั้ง 2 เท้า (เหมือนกับหนีบรองเท้าฟองน้ำ) เมื่อเริ่มเล่น ทุกคนยืนอยู่ที่เส้น พอได้ยินเสียงสัญญาณให้รีบเดินไปที่เส้นชัย ใครถึงก่อนถือว่าชนะ